เส้นทางริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีวัดตั้งอยู่มากมายหลายแห่ง วัดกัลยาณมิตรก็เป็นอีกหนึ่งวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีค่ะ
โดยวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารนั้นเป็นวัดที่ผสานทั้งความเป็นไทยและจีนเอาไว้ด้วยกัน เพราะเป็นวัดที่เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียงของตนสร้างขึ้นเป็นวัดเพื่อแก่ภิกษุจีนที่พักอาศัยอยูบริเวณนั้นแล้วได้น้อมเกล้าฯถวายให้เป็นพระอารามหลวง ส่วนชื่อของวัดนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นผู้พระราชทานนามวัดให้ตามชื่อต้นตระกูลของเจ้าพระยานิกรบดินทร์ค่ะ
ภายในบริเวณวัดนั้นกว้างขวางมาก หากเข้ามาทางถนนอาจจะต้องเดินเข้ามาหน่อย แต่หากเดินทางโดยทางเรือแล้วก็จะถึงวัดได้อย่างง่ายดาย
หากพูดถึงพระประธานของวัดกัลยาก็คงจะไม่พ้น หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน โดยมีชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเข้าพระวิหารหลวงแล้ว รอบข้างนั้นก็มีหลายอย่างมากมายให้เราได้ชมกันค่ะ
ภายในวัดแห่งนี้มีเทพเจ้าจีนทั้ง 8 องค์ให้เราให้เคารพสักการะ ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ เทพเจ้าแห่งความมั่นคง นอกจากนี้แล้ว บริเวณโดยรอบยังมีพระพุทธรูปเทพเจ้าองค์อื่นได้แก่เจ้าแม่กวนอิมและพระสังกัจจายน์ให้เราได้เคารพและไหว้กันค่ะ
ตั้งอยู่ตรงข้ามด้านหน้าพระวิหารหลวงที่หากใครดีแล้วจะมีชื่อเสียงดีงามก้องกังวาลเหมือนเสียงของกลอง และยังมีหอระฆังที่เก็บระฆังใบยักษ์ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งทางวัดนั้นให้เราสามารถขึ้นไปตีเพื่อความเป็นสิริมงคลได้
นอกจากพระวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตแล้ว ยังมีพระอุโบสถอีกแห่งที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง ให้เราเข้าไปเคารพสักการะพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์องค์เดียวในประเทศไทยได้ค่ะ ซึ่งภายนั้นถึงจะคนน้อยกว่าพระวิหารหลวง แต่ภายในก็ประกอบด้วยความสวยงามในรูปแบบศิลปะไทย รวมถึงจิตกรรมฝาผนังซึ่งความสวยงามนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
บริเวณรอบวัดกัลยานั้น เราจะเห็นประดิษญมากรรมในรูปแบบทั้งไทยและจีนมากมาย รวมถึงมีพระวิหารและเจดีย์มากมายหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละเจดีย์นั้นก็เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อนำไว้บรรจุอัฐของเจ้าพระยาบ้าง เป็นเจดีย์ประจำตระกุลบ้าง หรือเจดีย์หินที่เป็นศิลปะจากเมืองจีนก็ยังมีค่ะ
ซึ่งหนึ่งในนี้เราจะเห็นขนมโบราณที่ชื่อว่า ขนมฝรั่งกุฏีจีน ซึ่งเป็นขนมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าหากได้ทานขนมนี้แล้วชีวิตจะมีความร่มรื่นและมั่งคั่ง อีกทั้งยังเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพเพราะไม่หวานไม่มันเลี่ยนจนเกินไป ลักษณะนั้นจะเป็นขนมที่ผิวกรอบนอกนุ่มใน แป้งสาลีจะนุ่มนิ่มเข้ากับความหวานของน้ำตาลเป็นอย่างดี และสูตรหนึ่งของขนมกุฎีจีนนี้คือจะไม่ใส่ นม เนย ผงฟู หรือสารกันบูดค่ะ ซึ่งที่นี่เองก็มีชายหลายยี่ห้อ หากใครสนใจก็ลองหาซื้อมาทานกันได้นะคะ นอกจากความยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อโตแล้ว วัดกัลยาแห่งนี้ยังมีหลายสิ่งมากมายให้เราได้เยี่ยมชม
สำหรับการเดินทางที่นิยมมากที่สุดคงไม่พ้นการเดินทางโดยเรือโดยสารข้ามฟากจากท่าเรือปากคลองตลาดไปยังท่าเรือวัดกัลยา ซึ่งสามารถเดินทางข้ามไปยังฝั่งธนบุรีได้อย่างสะดวกและรวดเร็วค่ะ
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต หรือเรียกตามแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง สามารถเดินทางโดยรถประจำทาง สาย 40, 57, 149, ปอ. 177 หากเดินทางโดยเรือใช้บริการข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลองตลาด มาท่าเรือวัดกัลยาฯ
|
